บล๊อคนี้เกิดจากความตั้งใจที่จะบันทึกทุกอย่างในชีวิตเรา ที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตแบบประหยัดงบ แต่ไม่ประหยัดความสุขและความสำเร็จ เราแอบหวังเบาๆว่ามันจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นที่บางจังหวะชีวิต ต้องการอะไรที่ตรงกับบางเรื่องของเราพอดี : )
วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
หนีห่าวเซี่ยงไฮ้ : รีวิวโรงแรม Hanting Hotel ย่านPudong ดีและถูก
มีโอกาสได้ลองใช้บริการโรงแรมที่เซี่ยงไฮ้ในคืนแรกๆที่มาถึง ซึ่งโรงแรมนี้ ทางออฟฟิศของแฟนจองให้ จึงเป็นโรงแรมแบบ Business Hotel อยู่ใกล้ๆออฟฟิศแฟน รวมทั้งใกล้สถานีรถไฟใต้ดินมากๆชนิดเดินไม่กี่ก้าวก็ถึงสถานี และเป็นสถานีที่ห่างจากสถานี Lujiazui ซึ่งเป็นที่ตั้งของแลนด์มาร์คทั้งหลายของเซี่ยงไฮ้เพียง 3สถานี แถมบริเวณนั้น ก็มีร้านอาหารเยอะมาก ถูกแพงเลือกได้ตามอัธยาศัย นอกจากทำเลที่ตั้งจะไม่เลวแล้ว คุณภาพของห้องพักถือว่าใหม่และมีมาตรฐานมากๆ แม้ขนาดห้องที่ได้พักจะไม่ใหญ่ แต่ก็มีทุกอย่างครบตามที่ห้องพักโรงแรมควรจะมี และคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดที่เราต้องขอเอามารีวิว บอกต่อก็คือ ราคาที่ไม่แพงเลย ตรงตามคอนเซ็ปท์ on a budget
มาเริ่มกันเลยดีกว่า
ตั้งแต่ประตูห้อง มีระบบล๊อคตามมาตรฐาน ขวามือเป็นห้องน้ำที่เหมือนยกมาวางในห้องอีกที พื้นจึงสูงนิดนึงต้องก้าวชั้นหน่อย ข้อเสียคืออาจจะไม่เหมาะกับคนชราหรือผู้พิการค่ะ
ถัดเข้ามาข้างในจะมีอาร์มแชร์และโต๊ะกลมเล็กๆ สามารถนั่งทำงานหรือทานอาหารตรงนี้ได้ค่ะ มีโคมไฟตั้งพื้นให้ด้วยด้านหลัง ข้างๆเป็นเตียงนอน หลับสบายมากเลย
เครื่องปรับอากาศของโรงแรมนี้จะมีทั้งฮีตเตอร์และแอร์ในตัวเดียวกันนะคะ ถ้าอยากให้อุณหภูมิอุ่นขึ้นให้สังเกต จะต้องมีสัญลักษณ์พระอาทิตย์ขึ้นด้วย
ที่นี่ไม่มีตู้เสื้อผ้า แต่จะมีราวแขวนเสื้อผ้าพร้อมไม้แขวนเสื้อให้ เพื่อการประหยัดพื้นที่ค่ะ ข้างๆราวแขวนเสื้อผ้าคือโต๊ะติดผนังเล็กๆเพื่อการประหยัดพื้นที่อีกเช่นเดียวกัน ไว้วางชุดแก้ว น้ำ และกาต้มน้ำร้อนไฟฟ้า
ม่านหน้าต่างเป็น2ชั้น ทึบและโปร่ง
ทีวีมีให้ดูค่ะ ช่องจีนทั้งน้าน
โต๊ะข้างเตียง มีสลิปเปอร์ให้ด้วยค่ะ สลิปเปอร์ที่นี่จำเป็นมากโดยเฉพาะในช่วงที่อากาศหนาว เท้าเราจะได้ไม่สัมผัสพื้นเย็นๆโดยตรง เหนือโต๊ะหัวเตียงมีเต้ารับสำหรับเสียบชาร์จอุปกรณ์ต่างๆของเราได้
ห้องน้ำที่นี่สะอาดเรียบร้อย มีทุกอย่างที่ห้องน้ำควรจะมี
วิวห้องนี้ จากชั้น2 ไม่เลวนะคะ ได้เห็นวิถีชีวิตชาวเซี่ยงไฮ้เพลินๆ
ที่เหลือก็เก็บรูปในห้องน้ำมาค่ะ เอาเป็นว่าสะดวกสบายตามสมควร ในราคาไม่ต่างจากไทยเลย
พิกัดก็อยู่สถานี Pudian road สาย 4 นะคะ โรงแรมจะอยู่ใกล้แยกไฟแดงพอดี
ลูกศรคือทางออกสถานีค่ะ
วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560
ตัวอย่างรูปถ่ายเพื่อขอวีซ่าเยี่ยมสามีระยะยาวที่จีน และขนาดที่ต้องใช้
รูปถ่ายเพื่อขอวีซ่าเยี่ยมสามีระยะยาวที่จีน เราสามารถถ่ายเองและปริ๊นเองได้ที่บ้านค่ะ หลักในการถ่ายรูปมีประมาณนี้ค่ะ
1. ถ่ายในแสงที่เพียงพอ และปรับแสงในคอมให้พอดีก่อนปริ๊น
2. ฉากหลังสีขาวดีที่สุดค่ะ ใช้ได้ทุกงาน
3. พยายามเปิดใบหน้า ให้เห็นหูทั้งสองข้าง
4. ถ่ายให้ครอบคลุมไว้ก่อน แล้วมาครอบให้ใกล้เคียงกับตัวอย่าง
5. แต่งกายให้สุภาพไว้ก่อน
ตัวอย่าง และขนาด
รูป 1นิ้ว
1. ถ่ายในแสงที่เพียงพอ และปรับแสงในคอมให้พอดีก่อนปริ๊น
2. ฉากหลังสีขาวดีที่สุดค่ะ ใช้ได้ทุกงาน
3. พยายามเปิดใบหน้า ให้เห็นหูทั้งสองข้าง
4. ถ่ายให้ครอบคลุมไว้ก่อน แล้วมาครอบให้ใกล้เคียงกับตัวอย่าง
5. แต่งกายให้สุภาพไว้ก่อน
ตัวอย่าง และขนาด
รูป 1นิ้ว
รูป 2นิ้ว
การเขียนจดหมายเชิญเพื่อขอวีซ่าเยี่ยมสามีระยะยาว และขอresident permitเมื่อไปถึงจีน
กรณี : ร่างจดหมายเชิญจากสามี เพื่อขอวีซ่าเยี่ยมสามีแบบระระยาวสำหรับภรรยา
และขอresident permitเมื่อไปถึงจีน
จดหมายเชิญนั้น ไม่มีแบบฟอร์มตายตัวค่ะ สำคัญที่เนื้อหาในจดหมาย ต้องมีข้อมูลสำคัญครบถ้วน ได้แก่
1. ชื่อ-นามสกุล ของสามี และหมายเลขพาสปอร์ต (ที่มีอายุเหลือครอบคลุมระยะเวลา1ปี นับจากวันที่คาดว่าจะบินไปถึงจีน)
2. ที่อยู่ที่จีน(ถ้ายังไม่รู้ให้ใส่ที่อยู่เจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานที่จีนไปก่อนก็ได้ค่ะ),
3. เบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่อสามี,
4. วันที่ที่คาดว่าจะไปจีน
5. ชื่อ-นามสกุล ของภรรยา วันเกิด และหมายเลขพาสปอร์ต (ที่มีอายุเหลือครอบคลุมระยะเวลา1ปี นับจากวันที่คาดว่าจะบินไปถึงจีน)
6. ที่อยู่ที่ไทยของภรรยา
7. เบอร์โทรศัพท์ภรรยา
ตัวอย่างที่1
ตัวอย่างที่2
ลิงค์สำหรับดาวน์โหลดไฟล์เพื่อเขียนจดหมายเชิญค่ะ
แบบฟอร์ม1
แบบฟอร์ม2
แบบฟอร์มจดหมายเชิญเพื่อขอresident permit
จดหมายเชิญนั้น ไม่มีแบบฟอร์มตายตัวค่ะ สำคัญที่เนื้อหาในจดหมาย ต้องมีข้อมูลสำคัญครบถ้วน ได้แก่
1. ชื่อ-นามสกุล ของสามี และหมายเลขพาสปอร์ต (ที่มีอายุเหลือครอบคลุมระยะเวลา1ปี นับจากวันที่คาดว่าจะบินไปถึงจีน)
2. ที่อยู่ที่จีน(ถ้ายังไม่รู้ให้ใส่ที่อยู่เจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานที่จีนไปก่อนก็ได้ค่ะ),
3. เบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่อสามี,
4. วันที่ที่คาดว่าจะไปจีน
5. ชื่อ-นามสกุล ของภรรยา วันเกิด และหมายเลขพาสปอร์ต (ที่มีอายุเหลือครอบคลุมระยะเวลา1ปี นับจากวันที่คาดว่าจะบินไปถึงจีน)
6. ที่อยู่ที่ไทยของภรรยา
7. เบอร์โทรศัพท์ภรรยา
ตัวอย่างที่1
ตัวอย่างที่2
ลิงค์สำหรับดาวน์โหลดไฟล์เพื่อเขียนจดหมายเชิญค่ะ
แบบฟอร์ม1
แบบฟอร์ม2
แบบฟอร์มจดหมายเชิญเพื่อขอresident permit
วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2560
การแปลทะเบียนสมรสไทยเป็นภาษาอังกฤษเพื่อยื่นรับรองเอกสาร
การแปลทะเบียนสมรสด้วยตัวเอง อาจจะต้องยอมเสียสละความสะดวกนิดหน่อย แต่ก็เป็นอีกทางเลือกสำหรับใครที่อยากจะประหยัดค่าแปลเอกสาร ซึ่งตอนเราแปลเองนั้น ก็ค้นคว้าวิธีเองจากกูเกิ้ลซึ่งอาจจะต้องค้นจากหลายๆที่หน่อย เนื่องจากตัวอย่างที่เจออาจจะมีข้อมูลรายละเอียดบางอย่างที่แตกต่างจากเรา วันนี้เราเลยอยากรวบรวมข้อมูลที่คิดว่าน่าจะครอบคลุมไง้ในที่เดียว จะได้สะดวกกับคนที่มีความจำเป็นและอยากประหยัดค่ะ
ทะเบียนสมรส จะมี2ส่วนด้วยกัน คือ ใบสำคัญการสมรส และทะเบียนสมรส ให้เราแปลเอกสารทั้ง2ส่วนเลยค่ะ
ซึ่งตอนเราค้นคว้าวิธีการแปล เราไปเจอบล็อกคนนี้เขียนไว้ดีมาก
ช่วยให้เราเริ่มต้นแปลเองได้ และประกอบกับกูเกิ้ลดูตัวอย่างจากคนอื่นๆอีก จนได้ออกมาเป็นหน้าตาแบบนี้ค่ะ
ต้นฉบับ
เอกสารแปล
ลิงค์สำหรับดาวน์โหลดเอกสารต่างๆค่ะ
แบบฟอร์มแปลทะเบียนสมรส คร.2
แบบฟอร์มแปลใบสำคัญการสมรส คร.3
ชื่อจังหวัด อำเภอ ตำบลฯลฯ ไทยอังกฤษ
ชื่อหน่วยงานปกครอง ไทยอังกฤษ
ชื่อตำแหน่งข้าราชการ ไทยอังกฤษ
วันเสาร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2560
หนีห่าวเซี่ยงไฮ้ : ขั้นตอนการขอวีซ่าจีน (ประเภทS1) เพื่อติดตามสามีคนไทยที่มาทำงาน
" สวัสดีค่ะ บทความนี้เราเขียนขึ้นเพราะอยากบันทึกรวบรวมประสบการณ์ตรงของเราเอง ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบกระบวนการการขอวีซ่าตลอดจนResident permit เพื่ออาศัยและเข้าออกประเทศจีนได้เป็นระยะเวลา1ปี เผื่อใครที่กำลังหาข้อมูลในกรณีเดียวกับเรา จะได้เป็นประโยชน์ค่ะ "
กรณี : สามีคนไทยของผู้หญิงไทยมาทำงานที่เซี่ยงไฮ้ และฝ่ายหญิงต้องการติดตามมาอยู่ด้วย
ขั้นตอน : แบ่งเป็น 2 ช่วงใหญ่ๆคือ 1. ก่อนบินไปจีน 2. หลังเข้าประเทศจีนแล้ว
ก่อนบินไปจีน
เอกสารที่ต้องเตรียม
1. พาสปอร์ต ของทั้งคู่ ต้องมีอายุเหลือเกิน 1 ปี นับจากวันที่ไปถึงจีน และสำเนาบัตรประชาชน
2. ทะเบียนสมรส > ทะเบียนสมรสที่แปลเป็นภาษาอังกฤษและรับรองเอกสารโดยกรมการกงศุลไทย > ทะเบียนสมรสที่แปลเป็นภาษาอังกฤษและรับรองเอกสารโดยกรมการกงศุลไทยและรับรองอีกครั้งโดยสถานทูตจีน การแปลทะเบียนสมรสไทยเป็นภาษาอังกฤษเพื่อยื่นรับรองเอกสาร
3. จดหมายเชิญจากสามี (เราร่างเองและให้สามีเซ็นต์) การร่างจดหมายเชิญ
4. เอกสารจากออฟฟิศจากจีน ได้แก่ ใบเอเลี่ยน (สีเขียวอ่อน) และจดหมายเชิญ (มีบาร์โค้ดมุมบนขวา ซึ่งต้องบอกทางออฟฟิศล่วงหน้าไว้เลยว่าให้ใส่ชื่อเราซึ่งเป็นภรรยาลงไปด้วย จะมีผลให้สามารถขอวีซ่าได้พร้อมกับสามีไปเลย) เอกสารทั้ง2แผ่นนี้ ผ่านการรับรองจากรัฐบาลจีน และต้องส่งตัวจริงมาหาเราทางไปรษณีย์
5. รูปถ่ายปัจจุบัน พื้นหลังขาวดีที่สุด ขนาด 1 นิ้ว และ 2 นิ้ว เตรียมไว้อย่างละ 1 โหลเลยก็ได้ ตัวอย่างรูปถ่าย
ขั้นตอนการขอวีซ่ามีดังนี้ค่ะ
1. สามียื่นเรื่องขอwork permit
2. work permit อนุมัติโดยรัฐบาลจีนแล้ว ทางออฟฟิศ เขียนจดหมายเชิญและยื่นให้รัฐบาลอนุมัติ
3. แปลและยื่นขอรับรองเอกสารแปล "ทะเบียนสมรส" กับกรมการกงศุลไทย ขั้นตอนนี้ ให้เรานำทะเบียนสมรสที่เป็นภาษาไทย มาแปลเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งเราสามารถแปลได้เอง หรือจ้างนักแปลก็ได้ การแปลทะเบียนสมรสไทยเป็นภาษาอังกฤษเพื่อยื่นรับรองเอกสาร
4. ให้ทางออฟฟิศที่จีน ส่งwork permit ของสามี และจดหมายเชิญมาทางไปรษณีย์ จดหมายเชิญ ให้ใส่ชื่อเรา(ภรรยา)ลงไปด้วย
5. ร่างจดหมายเชิญจากสามี การเขียนจดหมายเชิญเพื่อขอวีซ่า
6. นำทะเบียนสมรสตัวแปลที่รับรองจากสถานกงสุลแล้ว มายื่นกับศูนย์วีซ่าจีน เพื่อขอรับรองจากสถานทูตจีนอีกที
7. รวบรวมเอกสารทั้งหมด ไปยื่นขอวีซ่าที่ศูนย์บริการวีซ่าจีน อาคารธนภูมิ ชั้น5 ก่อนยื่น เราต้องต่อคิวเพื่อตรวจเอกสารและรับบัตรคิวที่เคาน์เตอร์ด้านหน้า เจ้าหน้าที่ตรงนั้นเค้าจะบอกว่าให้สำเนาเอกสารตัวไหนบ้าง และให้แบบฟอร์มกรอกคำร้องขอวีซ่าคนละ 1 ฉบับ เราก็กรอกให้เสร็จแล้วขอบัตรคิวเพื่อยื่นเอกสาร
เมื่อได้วีซ่าแล้ว พอบินไปถึงจีน ขั้นตอนที่จีนจะมีดังนี้ค่ะ
1. เราต้องรีบไปที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน ให้เจ้าของบ้านหรือเอเจนท์พาเราไป เพื่อรายงานตัว แล้วเค้าจะมีใบสีขาวเอ4มาให้เรา เราก็เอาไปให้ Hr ของแฟนจัดการให้
2. รอแฟนทำ work permit ที่เป็นเล่มๆคล้ายๆพาสปอต จากนั้นแฟนจะต้องไปตรวจสุขภาพก่อน
3. เราไปตรวจสุขภาพ รอผล 5 วัน
4. ไปยื่นขอ resident permit พร้อมแฟน รอผล 10 วัน **เอกสารที่ต้องใช้ก็จะคล้ายๆเดิม ไม่มีอะไรต้องเตรียมเพิ่ม นอกจากจดหมายเชิญ ที่เราต้องเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์สามีจากเบอร์ไทย เป็นเบอร์จีนค่ะ ตัวอย่างจดหมายเชิญจากสามีเพื่อขอResident Permit
สรุปค่าใช้จ่าย
1. รับรองเอกสารทะเบียนสมรสที่กรมการกงสุล แบบธรรมดา รอ 4 วัน หน้าละ200 มีทั้งหมด 4 หน้า รวมเป็น 800 บาท
2. รับรองเอกสารทะเบียนสมรสที่ศูนย์บริการขอวีซ่าจีน แบบธรรมดา รอ 4 วัน 2,100 บาท
3. ขอวีซ่า แบบธรรมดา รอ 4 วัน คนละ 1,500 บาท 2 คน รวมเป็น 3,000 บาท
4. ตรวจสุขภาพที่จีน คนละ 581หยวน 5. ขอ resident permit คนละ 800 หยวน
กรณี : สามีคนไทยของผู้หญิงไทยมาทำงานที่เซี่ยงไฮ้ และฝ่ายหญิงต้องการติดตามมาอยู่ด้วย
ขั้นตอน : แบ่งเป็น 2 ช่วงใหญ่ๆคือ 1. ก่อนบินไปจีน 2. หลังเข้าประเทศจีนแล้ว
ก่อนบินไปจีน
เอกสารที่ต้องเตรียม
1. พาสปอร์ต ของทั้งคู่ ต้องมีอายุเหลือเกิน 1 ปี นับจากวันที่ไปถึงจีน และสำเนาบัตรประชาชน
2. ทะเบียนสมรส > ทะเบียนสมรสที่แปลเป็นภาษาอังกฤษและรับรองเอกสารโดยกรมการกงศุลไทย > ทะเบียนสมรสที่แปลเป็นภาษาอังกฤษและรับรองเอกสารโดยกรมการกงศุลไทยและรับรองอีกครั้งโดยสถานทูตจีน การแปลทะเบียนสมรสไทยเป็นภาษาอังกฤษเพื่อยื่นรับรองเอกสาร
3. จดหมายเชิญจากสามี (เราร่างเองและให้สามีเซ็นต์) การร่างจดหมายเชิญ
4. เอกสารจากออฟฟิศจากจีน ได้แก่ ใบเอเลี่ยน (สีเขียวอ่อน) และจดหมายเชิญ (มีบาร์โค้ดมุมบนขวา ซึ่งต้องบอกทางออฟฟิศล่วงหน้าไว้เลยว่าให้ใส่ชื่อเราซึ่งเป็นภรรยาลงไปด้วย จะมีผลให้สามารถขอวีซ่าได้พร้อมกับสามีไปเลย) เอกสารทั้ง2แผ่นนี้ ผ่านการรับรองจากรัฐบาลจีน และต้องส่งตัวจริงมาหาเราทางไปรษณีย์
5. รูปถ่ายปัจจุบัน พื้นหลังขาวดีที่สุด ขนาด 1 นิ้ว และ 2 นิ้ว เตรียมไว้อย่างละ 1 โหลเลยก็ได้ ตัวอย่างรูปถ่าย
ขั้นตอนการขอวีซ่ามีดังนี้ค่ะ
1. สามียื่นเรื่องขอwork permit
2. work permit อนุมัติโดยรัฐบาลจีนแล้ว ทางออฟฟิศ เขียนจดหมายเชิญและยื่นให้รัฐบาลอนุมัติ
3. แปลและยื่นขอรับรองเอกสารแปล "ทะเบียนสมรส" กับกรมการกงศุลไทย ขั้นตอนนี้ ให้เรานำทะเบียนสมรสที่เป็นภาษาไทย มาแปลเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งเราสามารถแปลได้เอง หรือจ้างนักแปลก็ได้ การแปลทะเบียนสมรสไทยเป็นภาษาอังกฤษเพื่อยื่นรับรองเอกสาร
4. ให้ทางออฟฟิศที่จีน ส่งwork permit ของสามี และจดหมายเชิญมาทางไปรษณีย์ จดหมายเชิญ ให้ใส่ชื่อเรา(ภรรยา)ลงไปด้วย
5. ร่างจดหมายเชิญจากสามี การเขียนจดหมายเชิญเพื่อขอวีซ่า
6. นำทะเบียนสมรสตัวแปลที่รับรองจากสถานกงสุลแล้ว มายื่นกับศูนย์วีซ่าจีน เพื่อขอรับรองจากสถานทูตจีนอีกที
7. รวบรวมเอกสารทั้งหมด ไปยื่นขอวีซ่าที่ศูนย์บริการวีซ่าจีน อาคารธนภูมิ ชั้น5 ก่อนยื่น เราต้องต่อคิวเพื่อตรวจเอกสารและรับบัตรคิวที่เคาน์เตอร์ด้านหน้า เจ้าหน้าที่ตรงนั้นเค้าจะบอกว่าให้สำเนาเอกสารตัวไหนบ้าง และให้แบบฟอร์มกรอกคำร้องขอวีซ่าคนละ 1 ฉบับ เราก็กรอกให้เสร็จแล้วขอบัตรคิวเพื่อยื่นเอกสาร
เมื่อได้วีซ่าแล้ว พอบินไปถึงจีน ขั้นตอนที่จีนจะมีดังนี้ค่ะ
1. เราต้องรีบไปที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน ให้เจ้าของบ้านหรือเอเจนท์พาเราไป เพื่อรายงานตัว แล้วเค้าจะมีใบสีขาวเอ4มาให้เรา เราก็เอาไปให้ Hr ของแฟนจัดการให้
2. รอแฟนทำ work permit ที่เป็นเล่มๆคล้ายๆพาสปอต จากนั้นแฟนจะต้องไปตรวจสุขภาพก่อน
3. เราไปตรวจสุขภาพ รอผล 5 วัน
4. ไปยื่นขอ resident permit พร้อมแฟน รอผล 10 วัน **เอกสารที่ต้องใช้ก็จะคล้ายๆเดิม ไม่มีอะไรต้องเตรียมเพิ่ม นอกจากจดหมายเชิญ ที่เราต้องเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์สามีจากเบอร์ไทย เป็นเบอร์จีนค่ะ ตัวอย่างจดหมายเชิญจากสามีเพื่อขอResident Permit
สรุปค่าใช้จ่าย
1. รับรองเอกสารทะเบียนสมรสที่กรมการกงสุล แบบธรรมดา รอ 4 วัน หน้าละ200 มีทั้งหมด 4 หน้า รวมเป็น 800 บาท
2. รับรองเอกสารทะเบียนสมรสที่ศูนย์บริการขอวีซ่าจีน แบบธรรมดา รอ 4 วัน 2,100 บาท
3. ขอวีซ่า แบบธรรมดา รอ 4 วัน คนละ 1,500 บาท 2 คน รวมเป็น 3,000 บาท
4. ตรวจสุขภาพที่จีน คนละ 581หยวน 5. ขอ resident permit คนละ 800 หยวน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)